วันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

หนังสือคือประตูสู่โลกกว้าง

ขึ้นชื่อว่าหนังสือเชื่อแน่ว่าคงไม่มีใครกล้าปฏิเสธหรอกว่า หนังสือคือประตูนำเข้าสู่โลกรู้แจ้งเห็นจริง  ชาวนาผู้หนึ่งอยู่ไกล้โพ้นแห่งมหานครของชาติตน  แต่เขาสามารถรู้หลาย ๆสิ่งหลาย ๆอย่างเกี่ยวกับเมืองหลวงของเขา  หากเขาได้อ่านได้ศึกษาหนังสือเกี่ยวกับมหานครแห่งนั้นหนังสือคือประตูสู่โลกกว้างคือนิยามแห่งสัจจะในยุคโลกาภิวัตน คนแก่คนเก่าท่านเคยอบรมสั่งสอนลูกหลานของท่านว่า ถ้าอยากมีความรู้ ต้องหมั่นอ่านหนังสือหนังหา ถ้าอยากมีวิชาให้หมั่นร่ำหมั่นเรียน จากคำกล่าวนี้ ข้าพเจ้าใคร่ขอนำเอาคำกล่าวมาแยกชี้แนะให้เข้าใจแจ่มแจ้งแห่งความเป็นไปได้
         คำว่าถ้าอยากมีความรู้ต้องหมั่นอ่านหนังสือหนังหาตามปกติแล้วคนเราไม่ว่าใครก็ตามก็ย่อมรู้จักหนังสือ และเคยอ่านหนังสือ แต่คนเราจะอ่านแต่เพียงหนังสือที่มีอยู่เพียงอย่างเดียวคงไม่พอแน่ เพราะฉะนั้นสิ่งที่น่าจะนำ ไปสู่โลกกว้างอีกทางหนึ่งก็คือการอ่านหนังหาโดยข้าพเจ้าขอแยกแยะความหมายของคำว่า หนังหาไว้ดังนี้ คือ หนังหาน่าจะมาจากคำว่าหนังสือบวกกับคำว่าแสวงหา”เมื่อหนังสือกับการแสวงหามารวมกันจึงเป็นหนังหา ทีนี้เรามาดูความหมายของคำว่าหนังสือหนังหากัน หนังสือหนังหา หมายถึง หนึงสือที่เราต้องการศึกษา แล้วเราก็แสวงหามา เพื่อความรู้แจ้งเห้นจริงในสิ่งนั้น ๆ นั่นคือเราอยากทราบเรื่องอะไร ก็หาหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนั้นมาอ่านมาศึกษา  แล้วเราก้จะรู้ในสิ่งที่เราต้องการ  การหาหนังสือมาอ่านนั้นทุกวันนี้หาได้ง่ายมาก เช่น ซื้อจากร้าน ขายหนังสือทั่ว ๆไป หรือถ้าไม่มีงบในการซื้อก็ไม่ยาก เพราะทุกวันนี้ห้องสมุดมีเป็นจำนวนมาก หรือหากไม่สามารถ จะกระทำได้ตามที่กล่าว ข้าพเจ้าขอแนะนำแหล่งความรู้อีกแห่งหนึ่งที่เราสามารถจะไปหาได้โดยง่าย คือ คุณครู ที่โรงเรียน เจ้าหน้าที่เกษตร  เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ตำรวจ ฯลฯ บุคคลที่กล่าวมานี้ล้วนเป็นแหล่งความรู้ทั้งสิ้น เมื่อเราเข้าถึงท่านได้ หนังสือดี ๆที่ท่านมีอยู่ ท่านคงไม่ปฏิเสธในความต้องการอยากเรียนรู้ของเราแน่ แล้วเราก็จะได้ เป็นผู้ที่ได้อ่านหนังสือหนังหาอย่างแท้จริง
     ส่วนคำว่าถ้าอยากมีวิชาให้หมั่นร่ำหมั่นเรียนตามความหมายก็คือการเรียนเป็นประจำนั่นเอง เมื่อดูตาม ความหมายแล้ว การเรียนหนังสือจึงไม่เพียงแต่การเรียนในห้องเรียนเท่านั้น การเรียนที่ต่อเนื่องและประจำจึงน่าจะมีความเกี่ยวข้องกับการอ่านหนังสือไปในตัวด้วย  ดังเช่นการเรียนหนังสืออยู่ที่บ้าน การเรียนของเราก็คือการอ่าน นั่นเอง การเรียนโดยการอ่านนั้นเราสามารถทำได้ในหลาย ๆสถานที่เหมือนกัน นอกจากการอ่านที่บ้านแล้ว เราก็สามารถอ่านได้ตามที่สาธารณะทั่วไป เช่น เราเข้าไปในห้องน้ำห้องส้วมตามสถาบันการศึกา หรือโรงงานต่าง ๆ เชื่อแน่ว่าต้องมีวรรณกรรมตามฝาผนังอย่างแน่นอน วรรณกรรมตามฝาผนังนั้น ทำให้ผู้อ่านได้รู้กว้างเกี่ยวกับจิตใจ ของผู้เขียนได้เป็นอย่างดี  เพราะวรรณกรรมเหล่านี้ จะเขียนจากความรู้สึกจริง ๆของผู้เขียน
     จากที่กล่าวมาข้างต้น ก็พอจะมองให้เราได้เห็นว่า การอ่านหนังสือนั้น ทำให้เราได้รับความรู้และประสบการณ์ ใหม่ ๆ การนำไปประยุกต์ใช้ในการดำรงชีวิตร่วมกันในสังคม สิ่งที่เราอ่านแล้วเห็นว่าดี เราก็นำไปประพฤติปฏิบัติ
     สิ่งใดไม่ดีก็หลีกเลี่ยง  การอ่านหนังสือจะมีคุณค่าต่อชีวิตอย่างมากหากเราใช้ ใจอ่านหนังสือ  ใช้ ความคิด วิเคราะห์สิ่งที่อ่าน ดังนั้นคำกล่าวที่ว่า หนังสือคือประตูสู่โลกกว้าง จึงเป็นคำกล่าวที่ใครจะปฏิเสธไม่ได้
ที่มา http://www.sahavicha.com  นำเสนอโดย : ครูบัวกันต์ วิลามาศ  โรงเรียนบ้านตานวน  สพป.ศรีสะเกษ เขต 4

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น