วันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ประโยชน์ของการอ่าน


ประโยชน์ของการอ่าน การอ่านได้อะไร
ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์
นักวิชาการอาวุโส ศูนย์ศึกษาธุรกิจและรัฐบาล มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด 

ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ ได้กล่าวถึงประโยชน์ของการอ่านว่า
การอ่านมีความสำคัญมากในการกำหนดว่า อนาคต เราจะเป็นเช่นไร..
        ผมได้พยายามย้ำเด็กรุ่นหลัง ๆ ให้เห็นถึงประโยชน์และความสำคัญของการอ่านหนังสือมาโดยตลอด เพราะเห็นว่าเด็ก ๆ และคนทั่วไปในสังคมไทยของเราอ่านหนังสือกันน้อยเหลือเกิน เมื่ออ่านน้อยเราจึงเป็นคนที่มีโลกทัศน์แคบ มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องต่าง ๆ อย่างจำกัด ขาดความสามารถในการแก้ปัญหาและพัฒนาตนเอง จนกลายเป็นคนล้าหลังไปในที่สุด
        การอ่านเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเราทุกคน เพราะเป็นการเพิ่มทุนความรู้ที่คุ้มค่ายิ่งสำหรับชีวิตในอนาคต เราต้องสร้างทัศนคติแง่บวกให้กับการอ่าน เช่นตระหนักว่า การอ่าน คือ เครื่องมือของผู้ที่ปรารถนา ความสำเร็จ” “การอ่านไม่ใช่เป็นการเสียเวลา แต่เป็นการลงทุนทางปัญญา” “การอ่านทำให้เราเป็นคนฉลาด มีทั้งความรู้ และรู้จักคิดใคร่ครวญ นอกจากนี้ ที่สำคัญกว่านั้น เราจำเป็นต้องอ่านอย่างมีประสิทธิภาพ โดย

อ่านหนังสือที่ช่วยให้ชีวิตประสบความสำเร็จ
      ในชีวิตเรามีหนังสือ 2 ประเภทที่จะช่วยให้ชีวิตประสบความสำเร็จ ประเภทที่หนึ่ง หนังสือที่ตนเองชอบ เลือกหนังสือที่ทำให้มีความสุขเมื่อได้อ่าน อาจจะเป็นหนังสือประเภทใดก็ได้ เช่น บทกวี เรื่องสั้น นวนิยาย และประเภทที่สอง หนังสือที่ตนเองต้องอ่าน เลือกอ่านหนังสือที่สนับสนุนสู่ความสำเร็จของชีวิต และอ่านหนังสือให้ครบถ้วนทุกด้าน เพื่อเพิ่มพูนความรู้ ความเข้าใจ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมทักษะในด้านต่าง ๆ ที่เราอยากจะพัฒนา และเพื่อจรรโลงจิตใจและ คุณธรรมให้สูงขึ้น

บริหารเวลาในการอ่าน
      เราควรกำหนดเวลาอย่างเฉพาะเจาะจงในการอ่านหนังสือ เช่น ใน 1 วันต้องตั้งเวลาเฉพาะเจาะจงสำหรับการอ่าน เช่น วันละ 15 นาที 1 อาทิตย์จะอ่านได้กี่หน้า 1 เดือนได้เท่าไร ต้องพยายามคำนวณจากหนังสือที่เราต้องอ่าน ไม่ปล่อยเวลาให้เสียไปโดยเปล่าประโยชน์ ๆ ลดการใช้เวลาในด้านอื่นที่ไม่จำเป็น

พัฒนาทักษะการอ่านที่มีประสิทธิภาพ
      โดยศึกษาเทคนิคการอ่านและฝึกทำตามเป็นประจำ อย่างน้อยต้องมีวัตถุประสงค์ในการอ่าน เพื่อทำให้การอ่านมีความหมาย โดยจับประเด็นหลักให้ได้ กำหนด วัตถุประสงค์ วิเคราะห์ ทำความเข้าใจ และเก็บบันทึกความเข้าใจ อาจด้วยการจดบันทึกคำสำคัญไว้ตลอดการอ่าน ที่สำคัญ หลีกเลี่ยงเวลาที่ไม่ควรอ่านหนังสือ เช่น หงุดหงิด ง่วงนอน ไม่มีสมาธิ เพราะอาจทำให้การอ่านไม่ประสบความสำเร็จและทำให้ไม่ชอบอ่านในที่สุด
       หากเรายังต้องทำงานในองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยความรู้ เราจำเป็นต้องให้อาหารสมองที่ดี มีประโยชน์ และให้อาหารใหม่ ๆ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เราสามารถเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และได้รับแรงบันดาลใจในการทำงานให้ก้าวหน้าได้อย่างต่อเนื่อง
ที่มา http:// www.kriengsak.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น